ตำรวจกองปราบฯ ลงพื้นที่กวาดล้างนายทุนเงินกู้นอกระบบ 6 จุดในพื้นที่ จ.เพชรบุรี และสุพรรณบุรี รวบเจ้าแม่เงินด่วนเมืองเพชร “ทราย จัดหนัก” คนสนิทสมาชิกเทศบาลบ้านลาด พบเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท ยึดปืนอีก 5 กระบอก อึ้งทำมานานกว่า 8 ปี เงินเริ่มลงทุนเพียง 9 หมื่นบาท
วันนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 05.00 น. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.พารินท จันทร์เลิศ, พ.ต.ท.สุทธิชัย ไชยรัตน์ รอง ผกก.5 บก.ป. นำกำลังกว่า 50 นาย ระดมกวาดล้างนายทุนเงินกู้นอกระบบในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และสุพรรณบุรี จำนวน 6 เป้าหมาย เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สำหรับพื้นที่เป้าหมายจุดสำคัญที่มีการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้อยู่ที่บ้านพักเลขที่ 45/38 หมู่บ้านจัดสรรณัฎฐรียา ต.นาวุ้ง อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของ น.ส.จันทร์เพ็ญ แก้วมีสี หรือทราย จัดหนัก อายุ 32 ปี พบบ้านหลังดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 100 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด โดยในบ้านมี น.ส.จันทร์เพ็ญ กับนายสุรเดช สุขสำราญ อายุ 39 ปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านลาด จ.เพชรบุรี เพื่อนหนุ่มคนสนิท เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจค้นภายในบ้านหลังดังกล่าวพบแฟ้มเก็บเอกสารการกู้ยืมเงินอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงยังตรวจพบอาวุธปืนพกขนาดต่างๆ อีกจำนวน 5 กระบอก จักรยานยนต์จำนวน 20 กว่าคัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดไว้ตรวจสอบ
พ.ต.อ.ภูมินทร์กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั้ง 6 จุดในครั้งนี้สามารถตรวจยึดเอกสารการกู้ยืมเงินนอกระบบของเครือข่ายเงินกู้ได้ 2 เครือข่าย โดยเครือข่ายแรกเป็นเครือข่ายของ น.ส.จันทร์เพ็ญ หรือทราย จัดหนัก จากหลักฐานเอกสารที่ตรวจยึดได้นั้นพบว่ามีวงเงินกู้ยืมเงินนอกระบบสูงกว่า 100 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนของอาวุธปืนทั้ง 5 กระบอกที่สามารถตรวจยึดได้นั้นพบว่าเป็นปืนทั้งหมดเป็นปืนมีทะเบียนถูกต้อง โดยแบ่งเป็นปืนของ น.ส.จันทร์เพ็ญ 3 กระบอก และปืนของนายสุรเดช 2 กระบอก ทั้งนี้ ในส่วนของนายสุรเดช ถึงแม้ว่าปืนจะมีทะเบียนแต่เนื่องจากตามกฎหมายแล้วไม่อนุญาตให้พกพาอาวุธปืนออกนอกพื้นที่บ้านได้ แต่นายสุรเดชกลับนำปืนมาเก็บไว้ที่บ้านของ น.ส.จันทร์เพ็ญ จึงถือเป็นความผิดในฐานพกพาอาวุธปืนออกไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
พ.ต.อ.ภูมินทร์กล่าวต่อว่า ขณะที่ในส่วนของ น.ส.จันทร์เพ็ญนั้น จากการสอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าได้ปล่อยเงินกู้นอกระบบจริง โดยทำมานานกว่า 8 ปี โดยแรกเริ่มใช้เงินลงทุนเพียงแค่ 9 หมื่นบาทเท่านั้น ส่วนกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งรอบบ้านพักยอมรับว่าเป็นกล้องวงจรปิดที่สามารถส่งผ่านข้อมูลภาพมายังโทรศัพท์มือถือได้ตลอดเวลาจึงทำให้สามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวต่างๆ ในบ้านได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาต่อ น.ส.จันทร์เพ็ญ ในความผิดฐานเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ก่อนคุมตัวส่ง สภ.เมืองเพชรบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ภูมินทร์กล่าวอีกว่า ส่วนอีกเครือข่ายเป็นของบริษัท ชีพ เดเวลล็อบเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทที่รับทำธุรกรรมเกี่ยวกับไฟแนนซ์ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี จากการตรวจค้นพบว่าบริษัทดังกล่าวมีวงเงินกู้ยืมหมุนเวียนกว่า 4 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบทั้ง 2 เครือข่ายยังไม่พบความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงถึงกัน เพียงแต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือรูปแบบการปล่อยกู้ยืมเงินในแบบธุรกรรมอำพรางโดยใช้ในลักษณะของการซื้อสิ่งของและเครื่องใช้ต่างๆ
|