นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน จากกรณีที่คนไทยแฝงตัวเป็นแฟนบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดเพื่อลักลอบเข้าไปทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลี(เกาหลีใต้)ประมาณ 50 คน ว่า จากการสอบถามข้อมูลจากทูตแรงงานในเกาหลีใต้ได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้ได้สัมภาษณ์คนไทยก่อนเข้าเมือง 10 คน และสงสัยว่าไม่ได้มาเพื่อการท่องเที่ยว แต่อาจลักลอบเข้ามาทำงาน จึงส่งตัวกลับไทยอีก 40 คนสามารถหลุดรอดไปได้เพราะเป็นการสุ่มตรวจสอบ ขณะนี้สถานทูตไทยในเกาหลีใต้อยู่ระหว่างติดตามตัว
ทั้งนี้ ในปี 2558 ด่านตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้ได้คัดกรองคนไทยที่เดินทางไป เนื่องจากปัจจุบันไม่ต้องใช้วีซ่า โดยมีคนไทยถูกส่งกลับจากการคัดกรองของด่านตรวจ 29,740 คน และมีผู้อยู่เกินเวลาที่กำหนดกว่า 50,000 คน
ส่วนผู้ที่ต้องการไปทำงานเกาหลีใต้นั้นจะต้องไปด้วยวิธีการจัดส่งแบบรัฐต่อรัฐเท่านั้น โดยผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและคัดกรองจากนายจ้างเกาหลีใต้ ผ่านทดสอบภาษาเกาหลีและจัดอบรมก่อนเดินทาง ซึ่งตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบันมีแรงงานไทยทำงานอยู่เกาหลีใต้โดยวิธีจัดส่งแบบรัฐต่อรัฐกว่า 26,000 คน ส่วนใหญ่ทำงานในฝ่ายผลิต ก่อสร้างและเกษตร ล่าสุดช่วงต้นปีจนถึงขณะนี้ กกจ.จัดส่งแรงงานไทยไปกว่า 600 คน ปีนี้กรมการจัดหางานตั้งเป้าหมายจะจัดส่งให้ได้ 7,300 คนตามโควต้าที่เกาหลีใต้จัดสรรให้มา
นายอารักษ์ กล่าวด้วยว่า การที่คนไทยอยากไปทำงานเกาหลีใต้ เพราะได้รับเงินเดือนสูง แต่ละปีมีผู้สนใจเข้าทดสอบภาษาปีละ 20,000 คน แต่สอบผ่านเพียงแค่ 2,000 –3,000 คน ปัจจุบันมีคนไทยส่วนหนึ่งลักลอบเข้าไปทำงาน จึงขอฝากเตือนอย่าลักลอบเดินทางไปทำงานเพราะผิดกฎหมายเกาหลีใต้จะถูกจับและลงโทษ รวมทั้งติดแบลคลิสต์ ไม่สามารถไปท่องเที่ยวได้ หากอยากไปจริงๆขอให้ไปโดยวิธีจัดส่งแบบรัฐต่อรัฐผ่านกระบวนการอย่างถูกต้อง