22 มี.ค.60
ศาลอาญา พิพากษาจำคุก 2,451 กะทง รวม 12,255 ปี นายอภิชณัฏฐ์ แสนกล้า แม่ข่ายยูฟันสโตร์ บรรยายชวนลงทุน , นายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ แม่ข่าย , น.ส.พิชญา หาญพรม ภรรยา รับเงินลงทุน , , บ.ยูเทรดดิ้ง จำกัด ที่เป็นบริษัทเครือข่ายยูฟัน , ว่าที่ ร.ต.ฤิทธิเดช วรงค์ กก.บจก.ยูเทรดดิ้ง , น.ส.ณมนพรรณ์ ธาราบัณฑิต ผู้บรรยายแนะนำลงทุน , นายโชติพัฒน์ วุฒิพันธุ์โภคิน แม่ข่ายระดับสูง ลงคลิปแนะนำลงยูทูป , นายบุน เกียท ชู หรือชัยสงค์ ดูแลการเบิกถอนเงิน ,นายเควิน ลัย (Kevin Lai) สัญชาติมาเลเซีย ผู้จัดการธนาคาร UDBP , นายหยาว หยวน เฉา (Yang Yuan Zhao) สัญชาติจีน รองผู้จัดการธนาคาร UDBP ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของ บริษัท UDBP แมนเนจเมนท์ จำกัด (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาการเงินของยูฟันสโตร์ จำกัด , นายนที ธีระโรจนพงษ์ นักเคลื่อนไหวความหลากหลายทางเพศ ได้จัดรายการผ่านออนไลน์ เป็นการโฆษณาชักชวนลงทุน และเครือข่ายแชร์ลูกโซ่บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด ที่เป็นพนักงานบริษัทเอกชน ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว และบริษัท ยู เทรดดิ้ง รวม 22 ราย ตาม ความผิด พ.ร.ก.กู้ยืมเงินอันเป็นฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หนักสุดกระทงละ 5 ปี รวมทั้งความผิด พ.ร.บ.การกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
นายอภิชณัฏฐ์ แสนกล้า , นายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ , น.ส.พิชญา หาญพรม , นายโชติพัฒน์ วุฒิพันธุ์โภคิน แม่ข่ายระดับสูง , บ.ยู เทรดดิ่ง จำกัด ที่เป็นบริษัทเครือข่ายยูฟัน , ว่าที่ ร.ต.ฤิทธิเดช วรงค์ กก.บจก.ยูเทรดดิ้ง กับจำเลยร่วมรวม 9 คนยังมีความผิดฐานสนับสนุนองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามองค์อาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 ด้วยจำคุก 10 ปี แต่เมื่อรวมจำคุกจำเลยเลยตามกฎหมายที่ลงโทษทุกกระทงแล้ว กฎหมายให้จำคุกสูงสุดจำเลย รวม 13 คนได้คนละ 20 ปี
โดยส่วนของนายอภิชณัฏฐ์ แสนกล้า , นายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ , ว่าที่ ร.ต.ฤิทธิเดช วรงค์ กก.บจก.ยูเทรดดิ้ง , น.ส.พิชญา หาญพรม , นายโชติพัฒน์ วุฒิพันธุ์โภคิน แม่ข่ายระดับสูง ,นายบุน เกียท ชู หรือชัยสงค์ ดูแลการเบิกถอนเงิน ,นายเควิน ลัย (Kevin Lai) สัญชาติมาเลเซีย ผู้จัดการธนาคาร UDBP , นายหยาว หยวน เฉา (Yang Yuan Zhao) สัญชาติจีน รองผู้จัดการธนาคาร UDBP รวม 8 ราย จำคุกสูงสุด 50 ปี และปรับ บจก.ยูเทรดดิ้ง รวม 1,225,700,000 บาท
ส่วนนายไชธร ทองหล่อเลิศ คนขับรถผู้บริหารยูฟัน ถูกใช้ชื่อตั้งบริษัท , , นายศิริโชค สิริวรรณภา อดีตสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนางบริษัทกับจำเลยร่วม รวม 21 ราย นั้นศาลยกประโยชน์ความสงสัยให้จำเลย เพราะหลักฐานอัยการโจทก์ ยังมีข้อสงสัยตามสมควรและจำเลยบางคนไม่มีผู้เสียหายเบิกความถึง ทั้งนี้จำเลยทั้ง 21 รายก็จะได้รับการปล่อยตัวหลังศาลยกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจำเลยทั้ง 43 ราย ถูกยื่นฟ้อง 7 สำนวน ใน 5 ข้อหาตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 ,พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาดแบบขายตรง พ.ศ.2545 และฉ้อโกง ที่ลวงขายหน่วยลงทุนทางอิเล็กทรอนิกส์ จำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ หรือที่เรียกว่า U – TOKEN และศาลอาญา ยังสั่งให้ จำเลยร่วมกันคืนเงินชดใช้แก่ผู้เสียหาย 2,451 คน รวมเป็นเงิน 351,556,314 บาทด้วยพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามที่อัยการโจทก์ยื่นฟ้อง
โดยคดีนี้ศาลเริ่มสืบพยานตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.59 กระทั่งเสร็จสิ้นวันที่ 17 ก.พ.60 ใช้เวลา 5 เดือนเศษ สืบพยานโจทก์-จำเลย ร่วม 120 ปากก่อนมีคำตัดสินคดี ซึ่งระหว่างการพิจารณาจำเลย 41 ใน 43 ราย ถูกคุมขังในเรือนจำตลอด สำหรับ เครือข่ายแชร์ลูกโซ่ยูฟัน มีผู้ต้องหาร่วมทำผิดทั้งสิ้น 164 คน ศาลอาญาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดโดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมมาเข้าสู่กระบวนการพิจารณา 43 คน ระหว่างนี้มีผู้ที่หลบหนีต่างประเทศ 27 คน แบ่งเป็นชาย 20 คน และหญิง 7 คน และมีผู้ต้องหาที่หลบหนีในประเทศไทยอีก 39 คน เป็นชาย 19 คน เป็นหญิง 20 คน ซึ่งอัยการได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนติดตามจับกุมตัวมาฟ้องภายในอายุความ 15 ปี
ขณะเดียวกันมีผู้ต้องหาที่หลบหนีประกัน คือ นางแววตา แซ่โล้ว ซึ่งได้ยึดหลักประกันไว้แล้วและอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาส่งอัยการต่อไป
ญาติจำเลยบางคนที่ถูกตัดสินจำคุก ถึงกับเป็นลมล้มพับ หน้าห้องพิจารณา เมื่อทราบคำพิพากษา โดย จนท.ศาล ช่วยพาปฐมพยาบาลทันที