นายวิจารย์ สิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวถึงสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ 9 จังหวัด ว่า จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศ พบว่า อยู่ในระดับคุณภาพดีถึงคุณภาพปานกลางติดต่อกันมา 2 วันแล้ว หลังมีฝนตกในหลายพื้นที่ คาดว่า สถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะผ่านช่วงประกาศห้ามเผา 60 วันมาแล้วก็ตาม แต่กรมควบคุมมลพิษ(คพ.) ยังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ เนื่องจากสภาพอากาศในปีนี้ของประเทศไทยแห้งแล้งผิดปกติยาวนานและมีอุณหภูมิสูงมาก ทำให้เกิดการเผาไหม้ได้ง่ายและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบากในการเข้าพื้นที่ดับไฟป่า
ที่สำคัญจากการเก็บสถิติ 4-5 ปีที่ผ่านมา พบว่า ปีนี้ภาคเหนือ 9 จังหวัดของไทยเป็นครั้งแรกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาไฟป่าหมอกควันหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่เป็นผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนิโย โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.น่าน ที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานสูงมากช่วงที่ผ่านมา ที่เป็นปัญหาหมอกควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวย้ำว่า ปัจจัยการเกิดไฟป่าหมอกควันสาเหตุหลักมาจากจุดความร้อน หรือ Hotspot ที่เกิดการเผาจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว เมียนมา รวมทั้ง การเผาในพื้นที่ป่าอนุรักษ์พบว่า บางวันเกิดจุดความร้อนสูง 300-500 จุด และการเผาในพื้นที่การเกษตร ยอมรับว่า ต้องนำบทเรียนไปปรับแผนใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เผา จะนำมาวิเคราะห์เชิงพื้นที่ว่าเป็นการเผาในพื้นที่ของตนเองหรือไม่ เพื่อเข้าควบคุมพื้นที่สกัดการเข้าบุกรุกเผาในอนาคต ส่วนเขตป่าอนุรักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมเรียกสรุปปัญหาทั้งหมดต้นเดือนพฤษภาคมนี้