เมื่อเร็วๆนี้ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (มสด.) ได้เสนอข้อมูลรายงานการสำรวจสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของครูและบุคลากรทางการ ศึกษาให้ ศธ. พิจารณาในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยมีข้อมูลกลุ่มตัวอย่าง 5,312 คน อยู่ในอายุช่วง 25-34 ปี รายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 20,000 บาท ส่วนใหญ่มีการกู้เงินกับสหกรณ์ต่างๆมากที่สุด โดยมีวงเงินกู้เฉลี่ย 1,340,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 6.87 รองลงมา คือ กู้กับธนาคารพาณิชย์ หรือ สถาบันการเงิน วงเงินกู้เฉลี่ย 1,000,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 6.02 และกู้กับการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) วงเงินกู้เฉลี่ย 1,200,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 6.58 โดยวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน เพื่อใช้หมุนเวียนในครอบครัวมากที่สุด รองลงมาคือ ซื้อที่อยู่อาศัย ปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า หากเปรียบเทียบมูลค่าทรัพย์สินและหนี้สิน กลุ่มตัวอย่างจะมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน คาดว่าสามารถชำระหนี้ได้หมดก่อนเกษียณอายุราชการ และมีทรัพย์สิน เช่น ที่ดิน บ้าน ที่จะทำให้มีรายได้ในอนาคต
ทั้งนี้ครูส่วนใหญ่คิดว่ารัฐบาลควรเข้ามาช่วยเหลือปัญหาหนี้สินของครู แต่ก็มีกลุ่มตัวอย่างที่คิดว่ารัฐบาลไม่ควรเข้ามาช่วยเหลือ เพราะเรื่องหนี้สินเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล หากให้การช่วยเหลืออาจทำให้เกิดความเคยชินและเพิ่มหนี้สินมากขึ้นเรื่อยๆ หากรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็อยากให้ช่วยเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ หรือ เงินกู้แบบไม่คิดดอกเบี้ย หรือแนะนำแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงการเพิ่มรายได้ เพิ่มสวัสดิการของครูให้มากขึ้น ทั้งนี้จากรายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ปัญหาหนี้สินครูแม้จะมีอยู่จำนวนมาก แต่ปัญหาก็ไม่มาก เนื่องจากครูส่วนใหญ่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้.
