จากกรณีที่มีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นโรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต จ.นครราชสีมา ร้องเรียนเฟซบุ๊กเพจดัง ถูก “ครูเทียม” อดีตคอมเมนเตเตอร์รายการชิงช้าสวรรค์ พูดโจมตีอดีต ผอ. ไม่สนับสนุนเด็ก พร้อมเอาใจนักการเมืองเด็ก “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ล่าสุดผู้สื่อข่าวติดต่ออดีต ผอ. แต่ปิดเครื่อง
มีการโพสต์วีดีโอคลิปพร้อมข้อความร้องเรียนจากครูประจำโรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ถึงพฤติกรรมของ ครูเทียม” ชุติเดช ทองอยู่ หรือ “ครูเทียม ชิงช้าสวรรค์” อดีตนักวิจารณ์ดนตรีประจำรายการชิงช้าสวรรค์ ของค่ายเวิร์คพอยท์ ที่วิจารณ์พาดพิงเรื่องอื่น นอกเหนือจากการแสดง ทำให้โรงเรียนเสียหาย โดยเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่หน้าที่ว่าการอำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา ทางอำเภอปักธงชัยได้จัดให้มีการประกวดวงดนตรีลูกทุ่ง ทางโรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต ได้ส่งทีมลูกทุ่งเข้าประกวด ขณะที่ทำการแข่งขันจบ ครูเทียม ซึ่งเป็นกรรมการการตัดสิน วิจารณ์นอกเหนือจากการแสดง แต่พาดพิงไปถึง ผู้บริหาร และคณะบริหารโรงเรียน โดยใช้ถ้อยคำดูถูกโรงเรียนต่อหน้าสาธารณชน ทั้งที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง
“เราเป็นครูคนหนึ่งของโรงเรียนนี้ มีความรู้สึกเหมือนโดนเหยียดหยาม ดูถูกโรงเรียน ในคำพูดของครูเพลงท่านหนึ่ง ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์เกินความจริงหวังบอกนักการเมือง พาดพิงถึง ผอ. คนเก่าซึ่งพัฒนาโรงเรียน จนโรงเรียนจากโนเนม กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำ มีการแข่งขันเข้าเรียนสูงในจังหวัดนครราชสีมา เด็กเข้าเรียนต่อในสถาบันดีๆ มากมาย แต่เขามาวิพากษ์วิจารณ์จนเสียหาย คุณครูในโรงเรียนหลายท่านทั้งเก่าและใหม่รู้สึกเสียใจ และเสียเกียรติ แต่ไม่มีหนทางใดที่จะทำอะไรเขาได้ จึงมาร้องขอความเป็นธรรมให้โรงเรียน ครูเพลงท่านนี้ฝีปากร้าย ทำให้เครดิตโรงเรียนเสียหาย ชาวปักธงชัยเกิดความรู้สึกไม่ดีต่อโรงเรียน” ผู้เสียหาย กล่าว
ผู้เสียหายระบุอีกว่า โรงเรียนต้องพัฒนาทุกด้าน ไม่ใช่ตะต้องพัฒนาเฉพาะดนตรี เวลาไปแข่งชิงช้าสวรรค์ที โรงเรียนเสียงบประมาณไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อครั้ง รางวัลชนะเข้ารอบคือ 1 หมื่นบาท ซึ่งทางโรงเรียนยังมีนักเรียนอีก 3,000 คน จะต้องพัฒนา แต่ไม่ใช่ว่าโรงเรียนไม่สนับสนุน หากไม่สนับสนุนจริง จะเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้อย่างไร ส่วนครูเทียมก็ทำในเชิงธุรกิจเสียมากกว่า ธุรกิจเรื่องเครื่องแต่งตัวแดนเซอร์ ซึ่งรู้สึกว่าแย่ที่มาว่าโรงเรียนยากจน กระจอก งอกง่อย ซึ่งมันไม่เป็นความจริง
“ทั้งๆ ที่จังหวัดนครราชสีมาไม่มีใครไม่กล่าวถึงโรงเรียน เราเพราะสอบคะแนนโอเนตได้คะแนนสูงเพิ่มขึ้นทุกปีเพราะการพัฒนาของท่านผู้อำนวยการคนเก่าที่มีวิสัยทัศน์ทางการศึกษา แต่ไม่สนใจนักการเมืองท้องถิ่น งานนี้เลยโดนดิสเครดิตทั้ง ผอ. ทั้งโรงเรียนและนักเรียน ในภาคอีสานโรงเรียนเราเข้านายร้อยตำรวจหญิงได้ 2 คนแล้ว ซึ่งโรงเรียนของเราไม่ใช่โรงเรียนประจำจังหวัด นอกจากนี้ยังสอบได้แพทย์ทุกปี ปัญหาคือทำให้เครดิตโรงเรียนเสียหาย ทำให้โรงเรียนถูกมองว่าไม่สนับสนุนกิจกรรมของนักเรียน ขาดความเชื่อถือในการนำบุตรหลานมาเรียนโรงเรียนนี้” ผู้เสียหาย กล่าว
สำหรับวีดีโอคลิปดังกล่าว ความยาวเกือบ 5 นาที พบว่า ครูเทียมได้กล่าวพาดพิงผู้อำนวยการโรงเรียนคนเก่า ว่า ไม่สนับสนุน นักเรียนหาทุนไปแข่งขันเอง จนได้รางวัลรองชนะเลิศ แต่โรงเรียนกลับสร้างอาคารเรียน สร้างหลังคา แทนที่จะสร้างคน สร้างบุคลากร ซึ่งโรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต เป็นวงดนตรีลูกทุ่งเบอร์ 2 ของประเทศไทย ชนะหลายโรงเรียน แต่ทำไมโรงเรียนไม่สนับสนุน แต่ตอนนี้เปลี่ยน ผอ.ใหม่ ซึ่งต้องขอบคุณที่สนับสนุนค่าเดินทางให้ แต่ตนไม่สนใจผู้อำนวยการโรงเรียน แต่สนใจนายสมศักดิ์ พันธ์เกษม อดีต ส.ส. นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา (ของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ซึ่งตนฝากขอแค่หารถบัสปรับอากาศเดินทางไปบ้าง ไม่ใช่ให้นั่งรถกระบะ
ครูเทียม กล่าวว่า เจตนารมณ์ที่มาในวันนี้ เพราะอยากจะเล่าให้ชาว อ.ปักธงชัยว่า เขาสร้างชื่อเสียงให้อำเภออย่างใหญ่หลวง ฝากชาวปักธงชัยว่า วันไหนที่จะไปแข่งขันก็ขอให้ช่วยกันบริจาค ก่อนหน้านี้ตนขับรถผ่านตัวเมืองนครราชสีมา ซึ่งจัดงานย่าโม ตนสงสัยว่าทำไม่ไม่จ้างโรงเรียนปักธงชัย ไปจ้างวงดนตรีกระจอกงอกง่อยไปเล่นอยู่ในเมือง วันนี้ตนตั้งใจมาพูดเรื่องนี้ ฝากนายสมศักดิ์ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา ฝากนายอำเภอ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ช่วยดูแลโรงเรียนนี้หน่อย ถ้าไม่ดูแลจะให้ย้ายมาให้อยู่ในการดูแลกับเทศบาลกับ ส.ส.
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต ปัจจุบันมีนายนิรมิตร ดวดกระโทก เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนตั้งแต่ปี 2559 โดยมีนายมานพ เอื้อศิลามงคล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการมาตั้งแต่ปี 2556-2559 ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ไปยังนายมานพ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อสอบถามและชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ก็พบว่านายมานพปิดเครื่อง ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
เครดิต”เพจแหม่มโพธิ์ดำ”