วันที่ 1 ต.ค.2559 เวลา 10.00 น.”พ.ต.ต.อาคม โฉมศรี”
สารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุรถไฟชนเด็กวัยรุ่นเสียชีวิต บริเวณจุดตัดข้ามทางรถไฟบ้านดอนเสลา หมู่ที่ 3 ต.ท่าผา จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลบ้านโป่งและเจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังวิพากษ์วิจารณ์และมุงดูร่างผู้เสียชีวิตบนดงหญ้าริมทางรถไฟ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดตัดทางรถไฟออกไปประมาณ 20 เมตร ทราบชื่อต่อมา คือ นายนายเจษฎา มีใหญ่ อายุ 15 ปี สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้น มีบาดแผลฉกรรจ์ตามร่างกาย แขน ขา และคอหัก โดยห่างออกไปไกลกว่า 500 เมตร พบซากรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดงเทา หมายเลขทะเบียน ขพพ 165 ราชบุรี ของผู้เสียชีวิตตกอยู่ข้างทาง ส่วนรถไฟที่ชนคือ รถไฟขบวนที่ 257 สายธนบุรี – น้ำตกไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งได้ออกเดินทางไปตามปกติ เพื่อส่งผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว
สอบสวนต่อมาทราบว่า ก่อนเกิด นายเจษฎา ได้ขี่รถจักรยายนต์คันดังกล่าวออกจากบ้านพัก เพื่อไปซื้อของกินที่ตลาดบ้านโป่ง จนกระทั่งถึงจุดเกิดเหตุ เครื่องกั้นรถไฟแบบแขนกั้นอัตโนมัติได้ลดลงมาเพื่อปิดกั้นทางให้รถไฟผ่าน แต่ทว่านายเจษฎากลับขี่รถอ้อมแขนกั้นอัตโนมัติออกไป โดยไม่สังเกตเห็นรถไฟที่แล่นมาด้วยความเร็ว จึงชนเข้าอย่างจัง จนร่างของนายเจษฎากระเด็นไปไกลกว่า 20 เมตร แล้วเสียชีวิตอยู่ข้างดงหญ้า ส่วนรถจักรยานยนต์ถูกเกี่ยวติดไปกับหัวขบวนรถไฟ พร้อมกับบดขยี้จนเหลือแต่ซากพังยับเยิน
ทั้งนี้ จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่บริเวณจุดตักทางรถไฟดังกล่าว พบว่าเครื่องกั้นรถไฟแบบแขนกั้นอัตโนมัติ มักทำงานเองโดยที่ไม่มีขบวนไฟแล่นผ่านเป็นประจำ จึงทำให้ไม่แน่นใจว่ามีขบวนรถวิ่งผ่านหรือไม่ รวมไปถึงแขนกั้นอัตโนมัติที่มีความยาวเพียงครึ่งถนนเท่านั้น อีกทั้งสองข้างทางรถไฟมีวัชพืชปกคลุมอย่างหนาแน่นและเป็นช่วงโค้ง จึงปิดบังทัศนวิสัยยากแก่การมองเห็น ผู้ที่ใช้เส้นทางนี้จึงต้องใช้ความระมัดระวังกันเอง จนกระทั่งเกิดเหตุเสียชีวิตดังกล่าว