ฝ่ายที่เรียกตนเองว่ารัฐบาลกอบกู้ชาติ ซึ่งมีฐานตั้งอยู่ในกรุงตริโปลี ระบุในคำแถลงว่า จะยุติการทำหน้าที่ในการเป็นฝ่ายบริหารของประเทศ ด้วยเหตุนี้จะทำให้พวกเขาพ้นมลทินจากความรับผิดชอบต่อชะตาของประเทศชาติ”เราให้ความสำคัญต่อชาติเหนือสิ่งอื่นใด รวมถึงเน้นย้ำด้วยว่าหยุดนองเลือดแล้วประเทศจะปลอดภัยจากการแบ่งเป็นฝักฝ่ายและแตกแยกเป็นเสี่ยง” คำแถลงระบุ
ชาติตะวันตกมองว่ารัฐบาลสมานฉันท์ที่จะตั้งขึ้นมาใหม่คือความหวังที่ดีที่สุดในการยุติความวุ่นวายและรวบรวมทุกฝ่ายในลิเบียเข้าด้วยกันเพื่อต่อต้านการขยายอำนาจของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งได้ยึดเมืองซีราเตทางตอนกลางของประเทศไปแล้ว ส่วนอีกหนึ่งรัฐบาลของลิเบีย ซึ่งมีฐานอยู่ในเมืองโตบรูค ยังคงต่อต้านการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ยูเอ็นให้การหนุนหลัง
ทำเนียบนายกรัฐมนตรีจีเวล ระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการหารือกันระหว่างทำเนียบฯ กับคณะรัฐมนตรี ถึงหนทางที่จะหยุดการนองเลือดจากสงครามกลางเมืองในลิเบีย ด้านผู้นำของรัฐบาลใหม่ “ฟาเยส เซอร์ราจ” ได้มาถึงกรุงตริโปลีผ่านทางทะเลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อจัดตั้งที่ทำการชั่วคราวของรัฐบาลใหม่ในฐานทัพเรือแห่งหนึ่ง แม้จะมีการข่มขู่จากฝ่ายต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เขาเดินทางผ่านทางอากาศ
จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยินดีต่อการมาของเซอร์ราจ เช่นเดียวกับทูตยูเอ็นประจำลิเบีย “มาร์ติน คอบเลอร์” ผู้ไปอยู่ที่ตริโปลีในวันอังคาร ทั้งยังบอกด้วยว่า ได้รับการต้อรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนที่เหนื่อยหน่ายกับสงคราม
