ยืนยันว่าสหรัฐฯ พร้อมช่วยสนับสนุนมาตรการตอบสนองของมอสโกเต็มที่
“ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์” แห่งสหรัฐฯโทรศัพท์แสดงความเสียใจต่อประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย หลังเกิดเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
ทรัมป์ ได้แสดงความเสียใจและประณามเหตุโจมตีซึ่งคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไป 11 ราย และยังทำให้มีผู้บาดเจ็บอีก 45 คน ขณะที่ทางการรัสเซียยืนยันว่ากำลังสืบสวนเรื่องนี้ในฐานะ “การก่อการร้าย”
“ประธานาธิบดี ทรัมป์ ได้เสนอมอบความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อตอบสนองเหตุโจมตีดังกล่าว และนำตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม” ถ้อยแถลงจากทำเนียบขาวระบุ
“ประธานาธิบดี ทรัมป์ และประธานาธิบดี ปูติน เห็นตรงกันว่า ลัทธิก่อการร้ายจะต้องถูกกำจัดให้หมดสิ้นไปอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว”
ล่าสุด ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาเรียกร้องให้สาวกก่อวินาศกรรมในแดนหมีขาว เพื่อแก้แค้นที่มอสโกส่งเครื่องบินเข้าไปโจมตีทางอากาศช่วยรัฐบาลซีเรียปราบปรามนักรบญิฮาด
ทรัมป์ ได้กล่าวถึงเหตุโจมตีในรัสเซียเมื่อวานนี้ (3) ว่าเป็นการกระทำที่ “เลวร้าย”
บทสนทนาล่าสุดระหว่าง ทรัมป์ และ ปูติน มีขึ้น ในขณะที่สภาคองเกรสยังคงเดินหน้าสอบสวนกรณีที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว
ประชาคมข่าวกรองอเมริกันยืนยันว่า ปูติน เป็นผู้ออกคำสั่งแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ เพื่อช่วยให้ ทรัมป์ มีชัยเหนือ ฮิลลารี คลินตัน
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระบุว่า ที่ผ่านมารัสเซียเคยเผชิญเหตุโจมตีด้วยระเบิดโดยฝีมือของพวกกบฏอิสลามิสต์จากเขตสหพันธ์คอเคซัสเหนือหลายต่อหลายครั้ง แต่การเข้าแทรกแซงทางทหารของรัสเซียในซีเรียได้ทำให้แดนหมีขาวตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของพวกไอเอสด้วยเช่นกัน |