23 เม.ย. 59 เวลา 15.00 น. จากจุดกู้เรือบ้านท่าไคร้ ตำบลบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ ในที่สุดความพยามยามในการกู้เรือกำปั่นโบราณ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไอน้ำที่มีความยาวประมาณ 25 เมตร สูง 3 เมตร กว้าง 4.50 เมตร ที่จมอยู่ใต้ก้นแม่น้ำโขงมานานกว่า 69 ปีก็เป็นผลสำเร็จ สร้างความปีติยินดีจากทั้งทีมกู้เรือที่ว่าจ้างมาและชาวบ้านที่ช่วยกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนือ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้กินเวลามาร่วมเดือนเศษ ต่างได้รับความชื่นชมและเสียงปรบมือเป็นกำลังใจจากกองเชียร์เป็นอย่างมาก ก่อนจะนำขึ้นใส่รถบรรทุกหัวลาก นำมาเก็บรักษาไว้ภายในวัดโพธาราม หรือวัดหลวงพ่อพระใหญ่ บ้านท่าไคร้ หมู่ที่ 5 ตำบลบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นพระศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองบึงกาฬ เพื่อให้เป็นสมบัติของชาวบึงกาฬ และประชาชนหรือบุตรหลานจะได้ศึกษาต่อไป ต่อมามีประชาชนที่ทราบข่าวการกู้เรือกำปั่นสำเร็จ และนำมาเก็บไว้ที่วัดหลวงพ่อพระใหญ่ ต่างหลั่งไหลหมุนเวียนมาชมเรือกำปั่นโบราณที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไอน้ำ 4 สูบ เป็นจำนวนมาก
สำหรับทรัพย์สินที่พบในเรือ นายวีระชัย ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า ปากกาหมึกซึมยี่ห้อดังจากฝรั่งเศส 1 ด้าม บรั่นดี 1 ขวดเหล้ายาดอง 1 ขวดส่วนไวน์ 1 ขวดถูกจอบขุดแตก มีกริชทองเหลือง ตลับทองเหลืองเก็บบุรี่ รองเท้าหนังหลายคู่ ถังโลหะบรรจุน้ำมันขนาด 15 ลิตร 40 ถัง อยู่ในสภาพดี 25 ถัง กระดูกเชิงกรานมนุษย์ นอกจากนี้ยังพบระเบิด อาร์พีจี 2 ลูก ระเบิดขว้าง 1 ลูก ส่วนทรัพย์สินเงินทองของมีค่าอื่นยังไม่พบ ซึ่งชิ้นส่วนของเครื่องจักรในเรือกำปั่นโบราณที่ยกขึ้นมาก่อนและวางไว้ตรงลานจอดรด ได้รับความสนใจจากชมรมนักเสี่ยงโชคอยู่ตลอดเวลาไม่ขาดระยะท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนจ้า มีทั้งน้ำแดง อาหารคาวหวาน ดอกไม้ธูปเทียนและพวงมาลัยครบสูตร และที่ขาดไม่ได้คือแป้งฝุ่นโรยตัว แต่นำมาโรยบนเครื่องจักรช่วยกันลูบช่วยกันคลำจนมันวาววับ ส่วนสมาชิกชมรมเสี่ยงโชคมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่างก็ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวีดีโอและภาพนิ่งไว้เป็นหลักฐาน ส่วนตัวเลขที่น่าสนใจเห็นจะเป็นตัวเลข 1945 ซึ่งตรงกับ พ.ศ.2488 เป็นปีที่ผลิตเครื่องยนต์ นอกจากนี้ชาวบ้านที่มาดูซากเรือที่ศรัทธาในความเชื่อต่างพากันบริจาคเงินทำบุญ เพื่อเก็บไว้สร้างโรงเก็บหรือหรือทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ไว้ศึกษาความเป็นมาต่อไป
