ครม. เห็นชอบการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มเป็น 8 ขั้น

0
992
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ว่า ครม.เห็นชอบตามข้อเสนอกระทรวงการคลัง ในการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ขยายวงเงินเพดานรายได้สูงสุด 4 ล้านบาท เพิ่มเป็น 5 ล้านบาทขึ้นไป เสียภาษีในอัตรา 35% เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น

สำหรับโครงสร้างการจัดเก็บภาษีใหม่ จะเริ่มตั้งแต่รายได้ไม่เกิน 150,000 บาทต่อปี ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี ส่วนคนมีเงินได้ ตั้งแต่ผู้มีเงินได้ 150,001-300,000 บาท เสียภาษี 5% ผู้มีเงินได้ตั้งแต่ 300,001-500,000 บาท เสียภาษี 10% ผู้มีเงินได้ตั้งแต่ 500,001-750,000 บาทเสียภาษี 15% ผู้มีเงินได้ตั้งแต่ 750,001-1,000,000 บาท เสียภาษี 20% และผู้มีเงินได้ 1,000,001-2,000,000 บาท เสียภาษี 25% ผู้มีเงินได้ 2-5 ล้านบาท เสียภาษีในอัตรา 30% ผู้มีรายได้ 5 ล้านบาทขึ้นไป เสียภาษีในอัตรา 35%

การปรับโครงสร้างภาษีเพิ่มเป็น 8 ขั้น ด้วยการปรับเพิ่มขั้นสุดท้าย เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราภาษีนิติบุคคลที่ก่อนหน้านี้ ปรับลดลงอยู่ที่ 20% ซึ่งเมื่อบวกภาษีเงินปันผลอีก 10% จะทำให้อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่แท้จริงอยู่ที่ 28% ขณะที่การกำหนดให้ผู้มีรายได้สุทธิ 5 ล้านบาทขึ้นไปเสียภาษี 35% จะทำให้เมื่อเฉลี่ยแล้วอัตราภาษีของบุคคลธรรมดาที่แท้จริงจะอยู่ที่ 29% จากเดิมจะอยู่ที่กว่า 30% เพราะฉะนั้นจะทำให้เกิดความสมดุลมากขึ้นระหว่างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กับภาษีเงินได้นิติบุคคล ทั้งนี้การโครงสร้างภาษีรอบใหม่ จะส่งผลต่อรายได้รัฐหายไปปีละ 32,000 ล้านบาท

นอกจากการปรับอัตราภาษีแล้ว ยังมีการปรับเพิ่มค่าลดหย่อน ประกอบด้วย ค่าลดหย่อนสำหรับผู้มีเงินได้ส่วนบุคคลจำนวน 30,000 บาทต่อคน เพิ่มเป็น 60,000 บาทต่อปี ค่าลดหย่อนสำหรับคู่สมรส 30,000 บาทต่อคน เพิ่มเป็น 60,000 บาทต่อราย และค่าลดหย่อนจาการมีบุตร จากเดิมได้รับการลดหย่อนคนละ 15,000 บาทต่อ 1 คน ไม่เกิน 3 คน เพิ่มเป็นหักลดหย่อย 30,000 บาท ไม่จำกัดจำนวนบุตร

เนื่องจากปัจจุบันคนสมัยใหม่นิยมมีบุตรน้อย เพราะภาระค่าครองชีพสูง จนกลัวว่าจะกระทบต่อโครงสร้างประชากรของประเทศ โดยมีอัตราการเกิดเพียง 1% และอาจทำให้คนวัยชรามีสัดส่วนถึง 20% ทำให้ก้าวสู่สังคมวัยชรา จึงต้องการส่งเสริมการมีบุตรเพิ่มขึ้น

รวมทั้งเพิ่มการหักค่าใช้จ่ายประจำปีจากเดิม 40% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี เพิ่มเป็นการหักค่าใช้จ่ายได้ 50% ของเงินได้ต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี

การปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะมีผลบังคับใช้สำหรับเงินได้พึ่งประเมินในปีภาษี 2560 เป็นต้นไป ซึ่งจะสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และค่าครองชีพในปัจจุบัน อีกทั้งเป็นการช่วยบรรเทาภาระภาษีแก่ผู้มีเงินได้ โดยผู้เสียภาษีที่มีเฉพาะเงินได้ประเภทเงินเดือนและหักลดหย่อนส่วนตัวโดยไม่ใช้สิทธิลดหย่อนรายการอื่น จะเริ่มเสียภาษีเมื่อมีเงินได้ 26,000 บาทต่อเดือน

นายอภิศักดิ์ ยืนยันด้วยว่าขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีนโยบายปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม ( VAT) เพื่อรอภาวะเศรษฐกิจขยายตัวให้เหมาะสม และขณะนี้ยังบริหารจัดการรายได้ของรัฐบาลอยู่ในกรอบที่ประเมินไว้

 

728x90

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.